Tip & Tricks ในการใช้งาน OS X
เป็น Thai-Eng dictionary อีกตัวนึงที่คุณ iolimit
นำมาแนะนำในห้องสนทนาครับ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่นี่ครับ
http://macmuemai.com/forum/topic/345
วันนี้จะลองเขียนแนะนำเกี่ยวกับการใช้งาน Thai-Dictionary บน OS X ครับ (บทความนี้อ้างอิงจากการใช้งานได้บน OS X 10.5.5)
ทั่วไปการใช้งาน Thai-Eng Dictionary บน OS X มีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ
โปรแกรมติดตั้งภายในเครื่อง
เป็น Dictionary ที่ทำงานแบบโปรแกรมเดี่ยว ๆ โดยไม่จำเป็นต้องต่อ Internet เพื่อดึงข้อมูลมาเป็นผลการค้นหา
เท่าที่ผมลองหาดูคร่าว ๆ เห็นมีของ Infinisoft Technology (มีให้โหลดจากหน้าเวปของ apple.com ในส่วนของ download ด้วย)ที่สามารถทำงานร่วมกับ shortcut ในการเรียก dictionary ปรกติภายในเครื่องได้ (กด Ctrl+Command+D) ตามภาพด้านล่างนี้
สามารถ download ได้จาก
http://www.infinisoft.co.th/mac-thai-dict
หรือ
http://www.apple.com/downloads/macosx/productivity_tools/thaidictionary.html
วิธีการติดตั้ง
วิธีปรับให้ผลการค้นหาจาก Thai-Dict เป็นลำดับแรก
1.เปิดโปรแกรม Dictionary ของเครื่องเราขึ้นมา (Application/Dictionary.app)
2.ไปที่ Preference แล้วเลือกรายการ Dict ไทย อังกฤษ ที่เราเพิ่งติดตั้งเอาไว้ในเครื่อง(น่าจะอยู่รายการล่างสุด) ให้ลากมาไว้เป็นรายการแรก ตามภาพนี้ครับ
จากนั้น พอเราเข้าโปรแกรม Dictionary ครั้งต่อไป ผลการค้นหาที่ได้จะแสดงจาก Thai-Dict ของเราก่อนเป็นลำดับแรกแล้วครับ
note : ผมค่อนข้างจะชอบที่สามารถใช้ shortcut ร่วมกับ Dictionary (Ctrl+Command+D) ที่มีอยู่ในบน OS X ได้เป็นพิเศษครับ เพราะตามปรกติ เราสามารถที่จะใช้คำสั่งนี้ได้บนเกือบทุก app ใน OS X สำหรับ Dictionary ภาษาอังกฤษเดิมนะครับ พอตอนนี้สามารถแปลเป็นภาษาไทยได้ด้วย ยิ่งทำให้ใช้งานสะดวกขึ้นไปใหญ่เลย =)
แบบ Dashboard Widget เพื่อใช่ร่วมกับผลการค้นหาจากในเวป
เป็นกึ่ง ๆ app ในเครื่องในรูปแบบ Dashboard Widget ครับคือเราจะกรอกคำค้นลงใน widget แล้วผลลัพท์ที่ได้จะมาจากหน้าเวป
จาก http://dict.longdo.com/ ทำออกมาในรูปแบบของ Dashboard Widget ครับ หลักการคือ เหมือน widget ทั่วไป ที่เรากรอกคำค้นหา แล้วจะได้ผลลัพท์ผ่านหน้าเวปของ Longdo อีกที (มีบริการ Dictionary สำหรับ platform อื่น ๆ อีกนอกจากบน OS X ด้วยนะครับ เช่น Vista Gadget, IE Toolbar... ฯลฯ )
สามารถ download พร้อมดูวิธีการติดตั้งได้จาก
http://dict.longdo.com/?page=widget
note : เท่าที่ผมลองใช้ดู ให้ผลการค้นหาที่ค่อนข้างจะละเอียดและรวดเร็วดีนะครับ จนบางทีก็ลืมไปว่านี่เป็นการทำงานผ่าน internet (หน้าเวปของ longdo โหลดเร็วมาก)
ใช้งาน Eng-Thai Dictionary จากหน้าเวปโดยตรง
http://lexitron.nectec.or.th/index1.php
ของ Nextec ผมว่าใช้ง่ายดี ผลการค้นหาดูไม่รก แต่บางทีก็จะหาบางคำไม่ค่อยเจอ
http://dict.longdo.com/
อันนี้ของ Longdo เป็นที่เดียวกับที่แจก widget ในด้านบนครับ เท่าที่ลองดูได้ผลการค้นหาที่ละเอียดยิบ และหน้าเวปโหลดค่อนข้างจะเร็ว
หมดแล้วครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย
ใครมีโปรแกรมที่เคยใช้อยู่อยากจะแนะนำก็โพสใน Comment ได้เลยนะครับ =)
จากกระทู้ การ copy ไฟล์ครั้งละเยอะ ๆ (100,000 ไฟล์) และได้คุณ homoglobin มาโพสแนะนำเพิ่มเติมเอาไว้บน freemac.net เกี่ยวกับการใช้งานคำสั่ง rsync ผ่าน terminal เพื่อทำการ copy ไฟล์
ผมเลยลองทำตามดู และคิดว่าน่าจะดีถ้าเขียนเป็น how-to เก็บเอาไว้ สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ที่อาจจะไม่คุ้นกับการใช้งานคำสั่งผ่าน terminal ให้เห็นภาพทำตามได้ง่าย ๆ โดยเน้นบนพื้นฐานของผู้ใช้งานทั่วไปแบบบ้าน ๆ เป็นหลักครับ
note : จากการทดสอบสำหรับย้ายไฟล์ 38,000 กว่าไฟล์จาก hd ภายในเครื่องของผมเองไปยัง external hd ที่ต่อผ่าน firewire400 ใช้เวลาประมาณ 4 นาทีตั้งแต่เริ่มกระบวนการจนเสร็จสิ้นครับ ..
วิธีการ copy ไฟล์ผ่านคำสั่ง rsync บน terminal ครับ
ขั้นตอนที่ 1: กำหนดเป้าหมาย และปลายทางที่เราต้องการ
บน finder ให้เปิดเอาไว้ 2 หน้าต่างดังนี้ครับ
ขั้นตอนที่ 2 : เปิด terminal.app ขึ้นมา โดยจะเรียกจากใน applications folder/ utilities หรือผ่าน spotlight แล้วพิมพ์ terminal ก็ได้ เราจะเห็นหน้าต่างเปล่า ๆ ของ terminal แบบนี้ครับ
ขั้นตอนที่ 3 : พิมพ์คำสั่ง rsync ลงใน terminal
คำสั่ง resync มีรูปแบบการใช้งานคร่าว ๆ ประมาณนี้ครับ
rsync -av [path ของ folder ต้นทาง] [path ของ folder ปลายทาง]
** คำสั่ง rsync, -av, folder ต้นทาง และ folder ปลายทาง มีเว้นวรรคคั่นอยู่นะครับ ...
อย่างในกรณีของผม เป็นแบบนี้
rsync -av /apache2/htdocs/folder ต้นทาง /Volumes/MyBook-Mac/folder ปลายทาง
โดยที่ [path ของ folder ต้นทาง] = /apache2/htdocs/folder ต้นทาง
และ [path ของ folder ปลายทาง]= /Volumes/MyBook-Mac/folder ปลายทาง
ทีนี้ สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ที่ไม่ทราบว่าจะพิมพ์ path ของ folder ต้นทางกับ path ของ folder ปลายทางอย่างไรดีบน terminal ให้ทำแบบนี้ครับ
จาก finder ที่เราเปิดทิ้งเอาไว้ ให้ลองลาก folder ที่เราต้องการลงในบรรทัดของ terminal ดู เราจะเห็นว่า เค้าจะขึ้น path ของ folder นั้น ๆ ให้ แบบนี้ครับ
ที่เราต้องทำคือ พิมพ์คำสั่งว่า rsync -av ทิ้งเอาไว้บน terminal แล้วลาก folder ต้นทาง และ ปลายทาง จากบน finder มาลงใน terminal เพื่อให้คำสั่งสมบูรณ์
เมื่อได้ path ต้นทาง กับปลายทางลงในคำสั่ง rsync โดยสมบูรณ์แล้ว ให้กด enter ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เราจะเห็นว่าเขาเริ่มทำงานย้ายไฟล์ให้เราครับ
โดยไฟล์ที่มีปัญหา จะถูกแสดงขึ้นมาก่อนพร้อมด้วยระบุว่าทำไมถึงย้ายไม่ได้ให้เราทราบด้วย หลังจากนั้นก็จะเริ่มการย้ายไฟล์ตามปรกติทั่วไป เราจะเห็นหน้าต่าง terminal แสดงไฟล์ที่ถูกย้ายไล่ลงมาเรื่อย ๆ และเมื่อเสร็จกระบวนการแล้ว เขาจะแจ้งเรามาแบบนี้ครับ
หมดแล้วครับ ลองนำไปใช้งานกันดู หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ =)
มีเรื่องนึงที่ผมติดอยู่ในการทำงานแต่ก่อนของผมเสมอครับ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการตั้งชื่อไฟล์
เรื่องนี้ใหญ่กว่าที่คิด เพราะว่าถ้าเราตั้งชื่อไฟล์แบบตามใจฉันแล้ว .. เรามีโอกาสเจอเรื่องราวดี ๆ ได้แบบนี้ครับ
เรื่องราววุ่นวายอีกเยอะที่จะตามมาเพราะการตั้งชื่อไฟล์ตามใจฉันครับ ... ผมเลยอยากจะแนะนำการตั้งชื่อไฟล์ที่ทำให้มีปัญหาน้อยที่สุดมาให้ลองนำไปใช้กันดูนะครับ
1.หลีกเลี่ยงการตั้งชื่อไฟล์เป็นภาษาไทย ... ควรจะตั้งชื่อไฟล์เป็นภาษาอังกฤษ
ภาษาไทยเป็นปัญหาใหญ่อันดับต้น ๆ ในระบบดิจิตอลเลยครับ.. เรื่องนี้บางคนไม่ทราบ หรือว่าเห็นว่าโปรแกรมเกือบทั้งหมดบน windows สามารถรองรับภาษาไทยได้ แต่ความเป็นจริงก็คือ ภาษาไทยในระบบคอมพิวเตอร์เป็นอักษขระที่ซับซ้อนกว่าภาษาอังกฤษเยอะมาก .. และจะหวังให้ผู้พัฒนาโปรแกรมส่วนใหญ่ หรือเกือบทั้งหมดที่เป็นชาวต่างชาติมาทำความเข้าใจกับภาษาหลักของบ้านเรา คงเป็นเรื่องที่ยากเข้าไปใหญ่ กอปรกับภาษาไทยในระบบดิจิตอลเอง ยังไม่มีมาตรฐานหรือองค์กรที่รับผิดชอบตรงนี้อย่างจริงจัง ตามที่ผมเข้าใจ.. เลยทำให้เวลาผู้พัฒนาโปรแกรมต้องการข้อมูลประกอบสำหรับอ้างอิง จึงเป็นเรื่องที่ลำบาก เวลาปัญหาเกิดขึ้นที ก็ต้องหาทางเดาหรือว่าแก้กันเองในหมู่ผู้ใช้
เรื่องนี้เห็นได้ชัดเจนมากกับโปรแกรมพิมพ์และภาษาไทย ที่ไม่ค่อยจะคงเส้นคงวาในเรื่องของ font และอะไรต่าง ๆ
การตั้งชื่อไฟล์ภาษาไทย ถ้าโชคดี คุณจะยังใช้งานได้อยู่ แต่อาจจะมีปัญหาเมื่อเปลี่ยนเวอร์ชั่นของโปรแกรม หรือระบบ OS ที่มักจะมีการปรับปรุงในเรื่องของ font และการทำงานเกี่ยวกับ font อยู่ตลอดเวลาครับ...
การตั้งชื่อไฟล์เป็นภาษาอังกฤษ จึงสามารถแก้ไขข้อจำกัดตรงนี้ได้ เราไม่จำเป็นต้องใช้คำเริศหรู เอาคำบ้าน ๆ ที่ตั้งแล้วตัวเองเข้าใจก็พอครับ
2.หลีกเลี่ยงการเว้นวรรคในชื่อไฟล์
ตรงนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ การเว้นวรรคทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้คือโปรแกรมไม่อ่านไฟล์นั้น ๆ ซึ่งเรื่องนี้ไม่เป็นเฉพาะกับชื่อไฟล์ภาษาไทยเท่านั้น สามารถเกิดได้กับชื่อไฟล์ที่เป็นภาษาอังกฤษได้ด้วย
ถ้าต้องการวรรคตอนจริง ๆ สำหรับชื่อไฟล์หลายพยางค์ ควรจะใช้เครื่องหมายขีดกลาง (-) หรือขีดล่าง (_) มาเป็นตัวแบ่งพยางค์แทนครับ เช่น
3.หลีกเลี่ยงชื่อไฟล์แบบ default ที่โปแกรมตั้งมาให้ตอน save ... เราควรจะใช้คำที่สื่อความหมายที่ตัวเราเองเข้าใจและตั้งเองมากกว่า
ส่วนใหญ่พวกโปรแกรมแต่งภาพหรือไฟล์ภาพจากอุปกรณ์ต่อพ่วงอื่น ๆ เช่นพวกกล้องดิจิตอล หรือว่าสแกนเนอร์ มักจะตั้งชื่อไฟล์มาให้เราเอง ซึ่งจะเป็นชื่อไฟล์ในแบบที่เครื่องอ่านเข้าใจ แต่คนอ่านไม่รู้เรื่อง เช่น R122003.jpg หรือ PIC00098.jpg อะไรทำนองนี้
เราควรจะตั้งใหม่ ให้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาหลักของไฟล์หรือภาพนั้น ๆ เพื่อที่ตัวเราเอง หรือแม้แต่ผู้ร่วมงานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ จะสามารถเข้าใจตัวไฟล์นั้นได้ โดยที่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเปิดไฟล์ขึ้นมาดู หรือรอรูปตรง preview ให้แสดงผลเสมอไป .. ช่วยให้การทำงานเร็วขึ้นได้ในระดับนึง
4.หลีกเลี่ยงชื่อไฟล์ที่ยาวเกินไป
การตั้งชื่อไฟล์ที่ดี ควรจะสั้นห้วน และได้ใจความครับ จริงอยู่ ว่าระบบ OS หรือว่าโปรแกรมรุ่นใหม่ ๆ ในปัจจุบันรองรับการทำงานกับชื่อไฟล์ยาว ๆ หลายตัวอักษรได้แล้ว
แต่ในเรื่องของการใช้งานจริง ถ้าชื่อไฟล์ยาว ๆ มีโอกาสที่ชื่อไฟล์จะแสดงเพียงบางส่วนครับ เช่น
my-material-of-the-stand......jpg
อะไรทำนองนี้.. งงกันไปใหญ่ หรือไม่ก็ต้องเสียเวลาดู preview หรือเปิดไฟล์นั้นขั้นมาดู
การตั้งชื่อไฟล์ที่ดี ควรจะทำให้เราเห็นและเข้าใจได้ในวินาทีนั้นเลยโดยที่ไม่ต้องเปิด หรือทำอะไรอย่างอื่นให้วุ่นวายจะดีที่สุดครับ
หลัก ๆ ที่ผมใช้อยู่เป็นประมาณนี้ .. ใครมี tip หรือวิธีการตั้งชื่อไฟล์ก็ลองมาแชร์กันนะครับ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะครับ =)
ทำงานเพลินๆ อยาก Capture หน้าจอเก็บไว้ แต่มันทำยังไงหละเนี่ย ปุ่ม Print screen ไปไหนล่ะ
ครับ ตามหัวข้อเลย
กำลังทำอะไรเพลินๆ อยู่ดีๆมีเสียงคนพูดมาจากในคอม ไม่ว่าจะคลิกอะไร กดตรงไหนมันพูดตามหมด
วิธีจัดการกับการเปิดหลายหน้าต่าง
วิธีช่วยจัดการให้เราทำงานได้สะดวกขึ้นเวลาเราเปิดหน้าต่างโปรแกรมหลาย ๆ อันซ้อนกัน
1.ใช้ Exposé
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ การใช้งาน Exposé เบื้องต้น ครับ
2.ใช้ Spaces
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ การใช้งาน Spaces เบื้องต้น ครับ
3.กด Command + Tab (⌘+Tab)
ลองกดดูครับ จะเป็นการบอกเราว่าตอนนี้เราเปิดโปรแกรมไหนอยู่บ้าง และให้เราเลือกถ้าเราต้องการจะสลับไปใช้งานโปรแกรมต่าง ๆ (โดยการกด Tab ไล่ไปเรื่อย ๆ หรือว่าใช้เมาส์คลิ๊กโปรแกรมที่ต้องการได้เลย)
4.วางแผนในการทำงานล่วงหน้า - - เปิดเฉพาะที่จำเป็นต้องใช้
ตรงนี้ช่วยท่านได้ครับ =)
เวลาทำงานก็เปิดเฉพาะ application ที่จำเป็นเท่านั้น นอกจากจะทำให้เครื่องมีทรัพยากรสำหรับทำงานมากขึ้นแล้ว เรายังจะมีสมาธิในการทำงานมากขึ้นไปด้วย = งานเสร็จเร็วขึ้น และมีเวลามากขึ้นในชีวิตครับ
หลายๆคนคงไม่ค่อยพอใจกับการเรียงตัวของ Menu bar icon ไม่น้อย