Review : LG Slim 8X Portable

วันนี้มีเหตุทำให้หงุดหงิดใจ เช่าหนังมาแล้วดูไม่ได้ เปิดขึ้นมาแล้วเจอปัญหากับ DVD Region ที่ผมยังเหลือโควต้าเปลี่ยน region ได้อีก แต่จะพอจะเปลี่ยนก็พบ error -70001 ทำเอามึนไปพักใหญ่ ..

หลังจากหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ทและไม่อยาก flash firmware ของ dvd ติดเครื่องใหม่ กลัวจะยิ่งไปกว่าเดิมเลยผมตัดสินใจว่าจะไปหา External DVD drive มาไว้ติดเครื่องดีกว่า จะได้ตัดปัญหาตรงนี้ในระยะยาวไปด้วย

ผมขี้เกียจเข้าเมืองไปห้าง IT ครับ เลยเดินเอาแถวบ้านนี่ล่ะ มีร้าน IT เล็ก ๆ อยู่ร้านนึงที่ผมไปซื้อ เครื่องคิดเลขเอนกประสงค์ มารีวิวให้ดูกันไปเมื่อเดือนก่อน วันนี้ได้ฤกษ์ซื้อ External dvd drive อันใหม่ ก็ถือโอกาสจับมารีวิวเสียเลย .. ผมไปได้เจ้าตัวนี้มาครับ

LG : 8x Slim Portable
Model : GP08 (แต่เห็นในเวปจะตรงกับรุ่น GSA-Exx ครับ)
• Multi-Format support – DVD+R/RW, DVD+R DL, DVD-R/RW, DVD-R DL, DVD-RAM, CD-R/RW
• Double Layer DVD+R (8.5GB) and dual layer DVD-R (8.5GB) recording supported
• 2MB Cache Buffer with buffer Under-run protection
• High Speed USB 2.0 Interface

ดู ๆ ไปแล้วน่าจะมี 2 สีแบบ คือ body ขาวสลับขอบดำ กับ body ดำขอบขาว จริง ๆ ผมอยากได้สี body สีดำนะ แต่ตอนไปซื้อแล้วมันไม่มี - -a เลยได้ body ขาวมาแทน ดู spec ที่เหลือเต็ม ๆ ได้ ที่นี่ ครับ เป็นหน้าเวปของ LG สิงคโปร์ แต่ถ้าเป็นหน้าเวปจาก LG เมืองไทย จะไม่มีรายละเอียดบอกไว้ครับ

เพราะว่าผมซื้อมาเอาไว้ดูหนังเป็นหลัก เรื่อง burn แผ่นเป็นเรื่องรองลงมา ผมเลยไม่ได้เน้นตัวเลขตรงนี้เท่าไหร่ .. และคงไม่มีตัวเลขทดสอบเกี่ยวกับการ burn แผ่นใน review นี้นะครับ ให้อ้างอิงจากเลขที่เห็นใน spec จากลิงค์ด้านบนเอาก็แล้วกัน

เหตุผลที่ผมหยิบตัวนี้ขึ้นมาเพราะว่ามีเครื่องหมายนี้ติดอยู่บนกล่องด้วย

หมายความว่าสามารถใช้ได้เลยไม่ต้องลุ้นครับ จริงอยู่ว่า Optical drive เดี๋ยวนี้ใช้งานกับ Mac ได้เกือบหมดแล้ว แต่การซื้อของที่บอกไว้บนกล่องว่าทำงานร่วมกับ OS X ได้ เป็นเรื่องที่ทำให้อุ่นใจและน่าซื้อขึ้นไม่น้อยสำหรับผมครับ .. ไม่รู้ทำไม (จริง ๆ ก็จากกรณีเครื่องคิดเลขนั่นไง.. ฮ่า...)

เริ่มแก่ะกล่อง
สิ่งที่มีอยู่ภายในกล่องจะ
        •        ตัวเครื่อง Optical Drive
        •        สาย USB 2 เส้น (เส้นนึงเอาไว้ต่อธรรมดา อีกเส้นจะเอาไว้ชาร์จไฟผ่าน USB ครับ เวลาใช้งานต้องต่อ 2 เส้นพร้อมกัน)
        •        คู่มือ
        •        แผ่น Software : มี Nero Express, Cyberlink DVD Player กับอะไรอีกอันนึงจำไม่ได้ app พวกนี้บอดสนิทเพราะสำหรับ windows เท่านั้นครับ

เมื่อเริ่มแก่ะกล่องออกมา ก็จะพบว่าตัวเครื่องถูกยึดไว้ด้วยโฟมชั้นแบบนี้ ดูแล้วน่ารักดี =)

ภายนอก

ตัวเครื่องเป็นพลาสติกมันวาวสีขาว ดูแล้วถ้าใครใช้ Macbook หรือว่าเครื่องสีขาว น่าจะไปกันได้ดีแท้ครับ (ที่เห็นหม่น ๆ ด้านบนตัวเครื่องจะเป็น sticker ใสปิดเอาไว้อีกทีนึงครับ ผมยังไม่ได้แก่ะ .. (แอบเห่อนิดนึง เหมือนซื้อรถใหม่ ทีวีใหม่ ตู้เย็นใหม่ จะไม่ค่อยอยากแก่ะอะไรออก.. เคยเป็นกันไหมครับ? )

ด้านหลังเครื่องจะมีช่อง mini USB แล้วก็ช่อง Adaptor ที่เราสามารถหา Adaptor ที่ให้ไฟขนาดเท่าที่เครื่องต้องการมาต่อแทนการใช้ไฟจาก USB ได้ครับ ตรงนี้ผมชอบนะ เป็นการออกแบบให้ใช้งานได้หลากหลายดี ให้ผู้บริโภคมีสิทธิ์เลือก และน่าจะใช้งานสะดวกเวลาหอบหิ้วไปใช้นอกสถานที่

ตัวเครื่องบางครับ ไม่รู้เหมือนกัน ผมไม่ได้ซื้อ Optical drive ใหม่มานานแล้ว มาจับตัวนี้ดู ก็ยังรู้สึกว่าบางได้ที่เลย ลองเทียบสัดส่วนดูกับมือผมก็ได้ครับ =)

การใช้งานอ่านแผ่น DVD

หลังจากแก่ะกล่องเสร็จแล้ว ก็มาต่อเข้าเครื่อง การที่ต้องต่อสาย USB พร้อมกัน 2 เส้นเป็นเรื่องจะนับเป็นข้อดีก็ได้เพราะสะดวกดี ไม่ต้องใช้ adaptor แต่ออกจะไม่ราบรื่นสำหรับตัวผมนัก เพราะ

1. โต๊ะรก ถึงรกมาก ... รกที่สุดในโลก
2. ผมเสีย USB สำหรับ Tablet อยู่ เวลาจะดูหนังทีก็เลยต้องถอดสลับกันไปมา .. และจากข้อ 1 .. ผมทำให้ชีวิตตัวเองวุ่นวายอยู่บ่อย ๆ ครับ

เมื่อเสียสาย USB ครบทั้ง 2 เส้นแล้วก็พร้อมใช้งานในทันทีครับ ปุ่มเปิดก็อยู่ด้านหน้า เมื่อกดเข้าไปก็จะเด้งถาด CD น้อย ๆ ออกมา ตัวถาดให้ความรู้สึกว่าแน่นดี แต่ก็ยังล่อกแล่กอยู่บ้าง ตามธรรมชาติของ drive บาง ๆ แบบนี้

เมื่อเริ่มใช้งานแผ่น DVD ครั้งแรก ก็จะมีหน้าต่างแจ้งเตือนให้ผมตั้ง DVD Region ใหม่ ซึ่งผมก็ตั้งได้ไม่มีปัญหาอะไรครับ..และแล้วผมก็ได้ดูหนังที่ไปเช่ามาเมื่อกลางวันจนจบแบบไม่ติดขัดเสียที

สุดท้าย .. เกือบลืม ตัว drive นี้ราคาประมาณ 3,335 บาท (คิดจากเงินเหรียญ 145 เหรียญสิงคโปร์ที่ผมซื้อมาครับ) ผมว่าราคาที่ไม่รุนแรงจนเกินไปนัก น่าจะเรียกได้ว่าค่อนข้างคุ้มค่าสำหรับตัวผมนะครับ =)

จบแล้วครับ เอาไว้วันหลังมีโอกาสได้ burn แผ่น ก็จะลองเอามาเล่าสู่กันฟังก็แล้วกันนะครับ